รูปตาแบบนี้ เหมาะกับต่อขนตาทรงไหน?

การต่อขนตา เป็นเทคนิคเสริมความงามที่จะช่วยเนรมิตดวงตาของสาว ๆ ให้โดดเด่นสะดุดตามากขึ้น แต่ทราบไหมว่าการเลือกทรงขนตาที่ไม่เหมาะกับรูปตาของเรา อาจทำให้ดวงตาดูผิดธรรมชาติหรือไม่สวยเท่าที่ควรได้ ดังนั้นการเลือกทรงขนตาให้เข้ากับรูปตาตัวเองจึง สำคัญมาก เพราะจะช่วยเสริมจุดเด่นและแก้ไขจุดที่เราไม่มั่นใจบนดวงตาได้อย่างแนบเนียน ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีเช็กรูปตาของตัวเอง พร้อมจับคู่ ทรงขนตา แบบต่าง ๆ ของร้าน Take Care Salon of Beauty ที่เหมาะกับรูปตาแต่ละแบบ เพื่อให้คุณได้ทรงขนตาที่สวยปังดูเป็นธรรมชาติ และช่วยให้ตาของคุณเปล่งประกายอย่างมั่นใจที่สุด

วิธีเช็กรูปตาของตัวเองเบื้องต้น

รูปแสดงลักษณะรูปตาประเภทต่าง ๆ เช่น ตาหางตาชี้ขึ้น (Upturned), หนังตาตก (Hooded), ตาชั้นเดียว (Monolid), หางตาตก (Downturned), ตากลม (Round), และตาทรงอัลมอนด์ (Almond) ซึ่งจะช่วยให้คุณเทียบรูปตาของตัวเองได้ง่ายขึ้น

ก่อนจะเลือกทรงขนตาที่เหมาะ เราควรรู้จักรูปตาของตัวเองก่อนค่ะ สามารถเช็กได้ง่าย ๆ ดังนี้:

• ชั้นตา (Eyelid Crease): สังเกตว่าคุณมีชั้นตาชัดเจนหรือไม่ หากไม่มีชั้นตาเลยหรือเห็นชั้นตาเพียงเล็กน้อย แสดงว่าคุณมี ตาชั้นเดียว (monolid) หรือ ตาสองชั้นหลบใน (hooded eyes) ที่หนังตาบนตกลงมาบดบังชั้นตา แต่หากมีชั้นตาชัดและมองเห็นเปลือกตาเต็มที่ แสดงว่าคุณมีตาสองชั้นปกติ

• มุมหางตา (Outer Corner): มองเส้นสมมุติที่ลากจากหัวตาไปหางตาในแนวนอน ถ้าหางตาของคุณยกสูงกว่าหัวตา แสดงว่าเป็น ตาหางตาชี้ขึ้น (upturned eyes) แต่ถ้าหางตาตกต่ำกว่าหัวตาเล็กน้อย นั่นคือลักษณะ ตาตก หรือหางตาชี้ลง (downturned eyes)

• รูปทรงโดยรวม: มองลักษณะความกลมและยาวของดวงตา ถ้าดวงตาดูกลมโต คล้ายตุ๊กตา มีพื้นที่ตาขาวเห็นรอบ ๆ ม่านตา แสดงว่าเป็น ตากลม (round eyes) แต่ถ้าดวงตารูปทรงรียาวคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ มุมตาเรียวแคบ แสดงว่าเป็น ตาทรงรีหรือตาทรงอัลมอนด์ (almond eyes) ซึ่งถือเป็นรูปตาที่สมดุลพอดี

เมื่อทราบรูปตาของตัวเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกทรงขนตาที่เข้ากับรูปตานั้น ๆ ซึ่งเราสรุปมาให้ดังนี้ค่ะ

ตากลมโต (Round Eyes)

Round Eyes

ตากลมโต

 

สาว ๆ ที่มีดวงตากลมโตหรือดอลลี่อาย (Dolly Eyes)ดวงตาจะดูค่อนข้างกลมและมักมีขนาดใหญ่ การต่อขนตาที่เหมาะกับตากลมคือการต่อแบบ มีวอลุ่มเป็นช่อ เพื่อเสริมให้ดวงตาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น การต่อขนตาแบบวอลุ่ม (Volume Lash)จะติดขนตาปลอมครั้งละหลายเส้นเป็นช่อบนขนตาจริงหนึ่งเส้น ทำให้ขนตาดูหนาฟูและเติมมิติให้ดวงตา ยิ่งกลมโตหวานขึ้นกว่าเดิม wongnai.com โดยทรงที่แนะนำสำหรับตากลม เช่น:

Eyelash Extension Styles

LASH PER LASH

J.Kardashian

วอลลุ่มฟูฟรุ้งแบบหวานหรู
มีวิสพีสลับ ยกหางเล็กน้อย ให้ตาคมเด่นถ่ายรูปสวย

LASH VOLUME

Magic Point Volume

โฟกัสความหนา–ความยาวที่ กลางตา ยกหางเล็กน้อย
ให้ดวงตาดู กลมใส มีมิติ แต่นุ่มละมุนไม่คมจัด

• Magic Point Volume:ทรงนี้จะเพิ่มความฟูฟรุ้งฟริ้งให้ดวงตา ดูหวานละมุนราวกับเจ้าหญิง สมกับดวงตากลมที่มีเสน่ห์อยู่แล้ว ให้ดูโดดเด่นขึ้นไปอีกขั้น

• J.Kardashian:ทรงขนตาวอลุ่มสไตล์สายฝอ ที่เน้นให้ดวงตาดูกลมโตคมชัดแบบสาวตะวันตก เหมาะกับคนที่อยากเพิ่มความโฉบเฉี่ยวหรูหราให้ดวงตาตัวเองมากขึ้น

สำหรับสาวตากลม การต่อขนตาแบบวอลุ่มหรือแบบที่กระจายความยาวทั่วทั้งตาจะช่วยคงความกลมน่ารักของดวงตาไว้ แต่ถ้าใครรู้สึกว่าตาตัวเองกลมมากเกินไปและอยากให้ดูรีเรียวยาวขึ้น อาจเลี่ยงการเพิ่มความยาวเฉพาะตรงกลางตามากเกินไป แล้วปรับไปใช้ทรงที่ยาวช่วงหางตาเล็กน้อยเพื่อดึงตาให้ดูยาวขึ้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วตากลมโตสามารถทำทรงขนตาได้หลากหลาย แต่แบบที่เติมวอลุ่มจะช่วยเติมเต็มดวงตาให้ดูหวานโดดเด่นได้ดีที่สุดค่ะ

ตาเรียว หรือตาทรงอัลมอนด์ (Almond Eyes)

Almond Eyes

ตาเรียว / ตาทรงอัลมอนด์

ดวงตาทรงอัลมอนด์มีลักษณะเรียวยาวเล็กน้อย คล้ายรูปทรงเมล็ดอัลมอนด์ ถือเป็นรูปตาที่สมดุลและ โชคดีมาก เพราะแต่งตาหรือต่อขนตาทรงไหนก็ดูสวยง่าย สาว ๆ ที่มีตาทรงนี้นิยมเพิ่มความคมเฉี่ยวให้ดวงตาด้วยการต่อขนตาทรง Cat Eye ค่ะ โดยจะต่อขนตาแบบ เส้นต่อเส้น (Classic Lash) ตามแนวรูปตาปกติ แต่ ไล่ความยาวให้มากขึ้นช่วงหางตา เพื่อดึงรูปตาให้ดูยาวและเชิดขึ้น ซึ่งทรงนี้ช่วยเน้นหางตาให้ดูเฉี่ยวคม เซ็กซี่ขึ้นโดยที่ภาพรวมยังดูเป็นธรรมชาติอยู่ wongnai.com

ตัวอย่างทรงจาก Take Care ที่เหมาะกับตาเรียว ได้แก่:

LASH PER LASH

Natural Charming

เน้นต่อขนตา “ยาวและงอนที่สุดที่หางตา”
ไล่จากกลาง→หางให้คมเฉี่ยว

LASH PER LASH

Camel

ไล่ความยาว–งอนให้มากสุดที่หางตา ตาดูยก เรียวยาว
เหมาะกับ: ตาอัลมอนด์/ตากลมที่อยากคมเรียว หรือตาตกเล็กน้อย

• Natural Charming: ทรงนี้จะออกแบบให้ขนตาช่วงหางตายาวและงอนกว่าโคนตาช่วงหัวตา เรียกว่า “หางตาจิก” เลียนแบบการกรีดอายไลเนอร์ที่หางตา ให้ลุคที่ดูมีเสน่ห์ชวนมอง แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ เหมาะมากสำหรับสาวตาเรียวที่อยากเพิ่มความโดดเด่นแบบไม่เยอะเกินไป

• Camel: ทรงขนตาที่เน้นความยาวและความงอนเป็นพิเศษบริเวณหางตา ทำให้ดวงตาดูยกขึ้นเฉี่ยวคม คล้ายกับการเขียนอายไลเนอร์ทรง Cat Eye ตลอดเวลา ทรงนี้จะช่วยขับให้ตาทรงอัลมอนด์ดูคมชัดขึ้นและกลมโตขึ้นเล็กน้อย เสมือนดวงตาของเรามีอายไลเนอร์ในตัวเลยค่ะ

ด้วยความที่ตาทรงอัลมอนด์มีความสมดุลอยู่แล้ว สาว ๆ สามารถเลือกต่อขนตาทรงอื่น ๆ ได้ตามชอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นลุคธรรมชาติอย่าง Classic Signature (ขนตาเส้นต่อเส้นแบบคลาสสิก) หรือจะเพิ่มวอลุ่มหนาฟูเพื่อความโดดเด่นก็ทำได้เช่นกัน เพียงแต่ทรง Cat Eye จะเป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะช่วยเสริมความเซ็กซี่ให้รูปตาอัลมอนด์ได้อย่างลงตัวที่สุดนั่นเองค่ะ

ตาตก หรือหางตาชี้ลง (Downturned Eyes)

Downturned Eyes

ตาตก / หางตาชี้ลง

ปัญหาของคนที่มีลักษณะหางตาตกคือดวงตามักดูเศร้าหรือดูง่วงนอนตลอดเวลา เพราะมุมหางตาลู่ต่ำกว่าหัวตาเล็กน้อย การต่อขนตาจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้โดยการ ยกมุมหางตาให้ดูสูงขึ้น ค่ะ ทรงที่แนะนำคือการต่อขนตาแบบ เส้นต่อเส้น หรือแบบที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาและยาวเกินไป และ เพิ่มความยาวหรือความหนาของขนตาช่วงหางตา เพื่อปรับให้รูปตาดูเชิดขึ้นอย่างแนบเนียน

ตัวอย่างทรงที่เหมาะกับตาตก ได้แก่:

LASH PER LASH

America Doll

ช่วยเปิดดวงตาให้ดูกลมโตและคมชัดขึ้น
ตรงกลางตาจะยาวที่สุดคล้ายดวงตาของตุ๊กตา

LASH PER LASH

Classic Signature (Natural)

ให้ลุคธรรมชาติ กลางตาเด่น หางสั้นสุภาพ
เหมือนขนตาจริงที่งอนยาวขึ้นนิดๆ

• Ragdoll: ทรงขนตาแบบเส้นต่อเส้นที่ออกแบบพิเศษสำหรับคนที่หางตาตก โดยจะค่อย ๆ เพิ่มความยาวของขนตาไปทางหางตา ร่วมกับการใช้ความงอนที่มากขึ้นในหางตา ทำให้หางตาดูเชิดขึ้น ดวงตาดูยกกระชับและสดใสขึ้น แก้ปัญหาตาดูตกหรือหางตาลู่ลงได้เป็นอย่างดี

• Chicago: สำหรับคนที่อยากได้ความหนาฟูแบบวอลุ่มเล็กน้อย ทรงชิคาโกก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเน้นเพิ่มความยาวบริเวณหางตาคล้ายกัน ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์และช่วยยกหางตาขึ้น อย่างไรก็ดีควรเลือกความยาวและจำนวนเส้นอย่างพอเหมาะ ไม่ให้หนักเกินไปที่หางตา

นอกจากการเลือกทรงแล้ว เทคนิคการต่อขนตาสำคัญมาก สำหรับคนตาตก ช่างมักจะใช้ขนตาที่มีความงอนมาก (เช่น D-curl หรือ L-curl) ในบริเวณหางตา เพื่อให้ขนตาที่ยาวขึ้นนั้นงอนขึ้นด้านบน แทนที่จะตกตามแนวรูปตาเดิม ซึ่งช่วยยกมุมตาขึ้นได้จริง ในบางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องต่อขนตาหางตายาวที่สุดเสมอไป หากหางตาตกมาก ช่างอาจแนะนำทรงที่ความยาวพอดี ๆ ไล่ระดับ แล้วใช้ความงอนช่วยเปิดหางตาขึ้นแทน เพื่อให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติและแก้ไขรูปตาได้ตรงจุดค่ะ

ตาชั้นเดียว / ตาหลบใน (Monolid / Hooded Eyes)

Monolid / Hooded Eyes

ตาชั้นเดียว / ตาหลบใน

สาวเอเชียหลายคนมี ตาชั้นเดียว หรือ ตาสองชั้นหลบใน ซึ่งลักษณะคือไม่มีชั้นตาชัดเจน เปลือกตาจะปิดลงมามาก ทำให้ตาดูเล็กกว่าคนที่มีตาสองชั้นแบบฝรั่ง แต่ข้อดีคือเราสามารถต่อขนตาเพื่อเพิ่มมิติและทำให้ตาดูกลมโตขึ้นได้มากเลยค่ะ แนวทางการต่อขนตาที่เหมาะกับคนตาชั้นเดียวคือต่อแบบ เส้นต่อเส้น เน้นความยาวช่วง กลางตา เป็นหลัก เพื่อดึงให้ดวงตาดูโตและเปิดกว้างมากขึ้น ลักษณะทรงนี้จะทำให้ดวงตาที่เคยดูเล็กเรียบเฉย กลายเป็นดวงตาหวานมีมิติน่ารักขึ้นมาได้ทันที

ตัวอย่างทรงที่เหมาะกับตาชั้นเดียว/ตาหลบใน ได้แก่:

LASH PER LASH

Regdoll

เน้นกลางตาให้ดูโตกลม ใส่เส้นที่ฟุ้งนุ่มที่ปลาย
ผลลัพธ์คนชั้นตาไม่หนีบตา

LASH VOLUME

Chicago

ไล่ความยาวจากหัวตาไปยาวสุดที่หางตา เพื่อทรงตา
เรียวยกขึ้นอย่างมีมิติ โทนเข้มแต่ยังดูสุขภาพ

• America Doll: ทรงขนตาเส้นต่อเส้นที่ช่วยเปิดดวงตาให้ดูกลมโตและคมชัดขึ้น ตรงกลางตาจะยาวที่สุดคล้ายดวงตาของตุ๊กตา ได้ลุคสวยหวานน่ารัก เหมาะมากสำหรับสาวตาชั้นเดียวหรือตาหลบในที่อยากเพิ่มความแบ๊วอย่างเป็นธรรมชาติ

• Classic Signature (Natural): สำหรับคนที่อยากได้ลุคเป็นธรรมชาติกลมกลืน ราวกับขนตาจริงที่งอนยาวขึ้น แนะนำต่อแบบคลาสสิกเส้นต่อเส้นความยาวพอดี ๆ (Natural Classic) ซึ่งทรง Classic Signature ของ Take Care ก็ออกแบบมาให้ดูคมเข้มขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ไม่เยอะจนเกินไป ช่วยเปลี่ยนลุคสาวตาชั้นเดียวที่ดูจืดให้โดดเด่นขึ้นได้แบบไม่ฉูดฉาด เหมาะกับทุกวันและทุกโอกาส

เทคนิคสำคัญสำหรับการต่อขนตาคนตาชั้นเดียว/หลบใน คือการเลือก ระดับความงอนและความยาวที่เหมาะสม เนื่องจากเปลือกตาของเราจะคลุมโคนขนตาบางส่วน การใช้ขนตาที่งอนมาก ๆ เช่น D-curl จะช่วยให้ขนตายกตัวพ้นเปลือกตาขึ้นมา ทำให้มองเห็นขนตาที่ต่อได้ชัดขึ้น และถ้าหนังตามีมากหรือชั้นตาหลบเยอะ การใช้ขนตาทรง L-curl ที่งอนตั้งฉากก็ช่วยเปิดตาได้ดีเช่นกัน ส่วนความยาวนั้นควรเลือกให้พอดี ไม่ยาวจนเกินไป เพราะถ้ายาวเกินขนตาจะชนกับกระดูกคิ้วหรือพับลงมายามลืมตา ทำให้ตาดูตกและรู้สึกหนักตาได้ การต่อขนตาสำหรับตาชั้นเดียวจึง

มักเน้นที่ความงอนและการจัดวางความยาวไล่ระดับให้ช่วงกลางยาวที่สุดและหางตายกขึ้นเล็กน้อย ก็จะช่วยให้ดวงตาดูโตและเฉี่ยวขึ้นพร้อม ๆ กันค่ะ

จับคู่ “รูปตา → ทรงที่เหมาะ”