เทรนด์สีผม 2025 สำหรับสาวแฟชั่นวัยทำงาน | สีมาแรง หน้าไบรท์ เปลี่ยนลุคได้จริง!
เลือกหัวข้อที่ต้องการ
เทรนด์สีผม 2025 สำหรับสาวแฟชั่นวัยทำงาน | สีมาแรง หน้าไบรท์ เปลี่ยนลุคได้จริง!
แถมการเลือกสีผมที่เหมาะกับตัวคุณ ยังช่วยให้ใบหน้าดูสว่างมีออร่า (สีผมหน้าสว่าง) โดดเด่นขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์!
แนวโน้มเทรนด์สีผมปี 2025 มาจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นที่นิยมเฉดสีธรรมชาติแบบ Milk Tea Brown และสีหม่นประกายเทาที่ช่วยให้ลุคดูแพงละมุน ไปจนถึงฝั่งตะวันตกที่ปีนี้มาแรงด้วยโทนสีอบอุ่นเป็นธรรมชาติ เช่น บลอนด์โทนอุ่นและน้ำตาลประกายทอง รวมถึงการประกาศของ Pantone ที่ได้เลือกให้สี Mocha Mousse เป็นสีแห่งปี 2025 ส่งผลให้โทนสีน้ำตาลละมุนกำลังครองเทรนด์ทั้งวงการแฟชั่นและความงามทั่วโลกเลยทีเดียว ขณะเดียวกันสำหรับสายแฟชั่น สายสร้างสรรค์ที่ชอบสีจัดจ้าน ปีนี้ก็ยังมีสีผมแฟนตาซีโทนสดใสหลายสีที่กำลังฮิตตามเทรนด์โลก (Hair Color Trends 2025) เช่น เฉดสีอัญมณีอย่างเขียวเอเมอรัลด์ น้ำเงินแซฟไฟร์ และฟ้าน้ำทะเล ซึ่งเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นบนรันเวย์และในหมู่แฟชั่นนิสต้าฝั่งตะวันตก เรียกได้ว่าเทรนด์ปีนี้มีความหลากหลายสุด ๆ ทั้งสายธรรมชาติและสายแฟชั่นจ๋า ทีนี้มาดูกันเลยดีกว่าว่า สีผมมาแรง 2025 มีสีไหนบ้างที่สาว ๆ วัยทำงานสายแฟชั่นห้ามพลาด เพราะทำแล้วทั้งอินเทรนด์ หน้าสว่าง และช่วยเปลี่ยนลุคให้ปังขึ้นทันตา!
7 สีผมมาแรงปี 2025 ที่ต้องลอง (อัปเดตเทรนด์ล่าสุด)
เราคัดมา 7 เฉดสีผมมาแรง 2025 พร้อมชื่อโทนสีแบบชัด ๆ และคำแนะนำว่าแต่ละสีเหมาะกับสาวบุคลิกแบบไหน โทนผิวอะไร เผื่อสาว ๆ จะได้ไอเดียไปเปลี่ยนลุคด้วยสีผมใหม่ให้สวยปังรับปี 2025 กันเลย!
1. Barbie Blonde – ผมบลอนด์โทนอุ่น สวยมั่นแบบสาวสายฝอ
สีบลอนด์สว่างแบบตุ๊กตาบาร์บี้กำลังเป็นกระแสมาแรงในปีนี้ โดยเฉพาะโทนบลอนด์ที่ให้ลุคสดใสและดูเป็นธรรมชาติ มากกว่าโทนบลอนด์เย็นซีดแบบเดิมๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านสีผมก็ยืนยันว่าในปี 2025 โทนบลอนด์จะเน้นไปที่เฉดอุ่นมากขึ้น แทนที่จะเป็นบลอนด์สว่างเย็นเฉียบอย่างยุคก่อน ดังนั้นสาวคนไหนที่เล็งอยากลองทำผมสีบลอนด์อยู่ บอกเลยว่าจัดได้เลยไม่มีเอาท์! สี Barbie Blonde จะช่วยเปลี่ยนลุคให้คุณดูเป็นสาวมั่น มีความเปรี้ยวเก๋แบบตัวแม่สายฝอ และยังช่วยให้ใบหน้าดูสว่างกระจ่างขึ้น (โดยเฉพาะถ้าเพิ่มไฮไลต์สีอ่อนแซมเพื่อให้ผมดูมีมิติมากขึ้น)
ทั้งนี้ผมสีบลอนด์เหมาะกับสาวที่มีบุคลิกมั่นใจ ชอบแต่งตัวสนุกสนาน และสำหรับโทนผิวที่เข้ากับสีนี้ หากเป็นผิวขาวหรือขาวเหลืองจะขับผิวได้ดีมาก แต่สาวผิวสองสีก็ทำได้เช่นกันเพียงเลือกเฉดบลอนด์ที่ไม่สว่างจนเกินไปเพื่อให้ดูกลมกลืนกับผิวค่ะ

2. Ginger Spice – ผมสีน้ำตาลประกายส้ม ช่วยขับผิวสุดปัง
โทนสีผมแนว “จินเจอร์สไปซ์” Ginger Spice เป็นการผสมผสานระหว่างสีส้มอมทองกับสีน้ำตาล ได้ออกมาเป็นเฉดคอปเปอร์ประกายส้มที่ทั้งเก๋และช่วยขับผิวให้ดูไบรท์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นสีที่มาแรงมาก ๆ ในปีนี้เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นสดใสแต่ก็ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป สาว ๆ ทุกโทนผิวสามารถทำสีนี้ได้ เพราะ Ginger Spice สามารถปรับระดับความเข้มอ่อนได้ตามชอบ จะส้มชัดแบบสาวเปรี้ยวก็ได้หรือจะเป็นน้ำตาลส้มหม่น ๆ แบบสาวสายละมุนก็ดี
ที่สำคัญคือสีนี้ทำแล้วหน้าดูสว่างขึ้นทุกสีผิวจริง ๆ เหมาะกับสาวที่อยากเพิ่มสีสันให้ลุคตัวเองแต่ยังอยากคงความสุภาพไว้เล็ก ๆ (เพราะมีสีเบจน้ำตาลผสม) สีน้ำตาลส้มโทนนี้ได้รับอิทธิพลทั้งจากฝั่งตะวันตกที่นิยมผมสีแดงประกาย (อย่างเทรนด์ Cowgirl Copper ในปีที่ผ่านมา) และฝั่งเอเชียเองก็เริ่มฮิตผมโทนส้มพีชเพราะช่วยให้หน้าดูสดใส
สรุปเลยคือ Ginger Spice จะช่วยเปลี่ยนลุคให้คุณเป็นสาวร่าเริงขี้เล่น ดูโดดเด่นขึ้นแบบไม่ต้องพยายาม

3. Dark Dimensional Black – ผมดำมีมิติ เรียบหรูแต่ไม่ธรรมดา
ใครที่ชอบผมสีเข้มแต่เบื่อผมดำสนิทแบบเรียบ ๆ ต้องปลื้มเทรนด์นี้เลยค่ะ Dark Dimensional คือผมสีดำมีมิติ ที่ไม่ได้ดำทึบทั้งศีรษะ แต่จะมีการเติมลูกเล่นด้วยเฉดสีเข้มอื่น ๆ แซมลงไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลเข้มประกายมะฮอกกานี เทาเข้มชาร์โคล หรือดำอมม่วงเล็ก ๆ เพื่อให้สีผมดำดูโดดเด่นน่าสนใจยิ่งขึ้น จึงเป็นผมสีเข้มที่ดูไม่ธรรมดาและไม่จำเจ สำหรับสาววัยทำงานที่อยากได้ลุคดูโปรสุภาพ ผมสีดำโทนนี้ถือว่าเหมาะมาก เพราะยังคงความน่าเชื่อถือ ดูเรียบร้อย แต่แฝงความเก๋ของสีผมที่มีมิติ ไม่เรียบแบนจนเกินไป นอกจากนี้ผมสีดำมีมิติยังช่วยขับใบหน้าให้ดูคมชัด และเส้นผมดูหนาสุขภาพดีมีน้ำหนักด้วย
แนะนำว่าสีนี้เหมาะกับทุกโทนผิวเลย โดยเฉพาะสาวผิวกลางถึงผิวสองสีทำแล้วจะยิ่งขับผิวให้นวลเนียน ผมดำมีมิติเป็นเทรนด์ที่มาแรงทั้งในสาย K-Beauty และฝั่งตะวันตก เพราะใคร ๆ ก็อยากมีผมสวยสุขภาพดีดูเป็นธรรมชาติ แต่เพิ่มลูกเล่นนิด ๆ ให้ดูแพงนั่นเอง

4. Mocha Mousse Brown – สีน้ำตาล Mocha Mousse แพนโทนแห่งปี
ปีนี้โทน น้ำตาลมอคค่ามูส Mocha Mousse ฮอตสุด ๆ เพราะนี่คือสีที่ Pantone ประกาศให้เป็น Color of the Year 2025 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสีน้ำตาลนุ่มละมุนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีของช็อกโกแลตนมผสมกาแฟ ดูอบอุ่นและหรูหราในเวลาเดียวกัน เทรนด์นี้ทำให้สาว ๆ ทั่วโลกหันมานิยมผมโทนน้ำตาลเข้มลุคผู้ดีที่มีความทันสมัยมากขึ้น เรียกว่ากระแส “Expensive Brunette” หรือผมสีน้ำตาลดูแพงกำลังมาแรงเลยทีเดียว สีน้ำตาล Mocha Mousse จะมีความพิเศษตรงที่เป็นสีน้ำตาลเข้มที่แฝงด้วยอันเดอร์โทนเย็นจาง ๆ (อมเทานิด ๆ) ทำให้เป็นสีน้ำตาลกลาง ๆ ที่เข้าได้กับทุกสีผิวอย่างลงตัว ทั้งผิวขาว ผิวสองสี หรือผิวแทนก็ทำแล้วรอด แถมยังช่วยขับใบหน้าให้ดูสว่างมีออร่าขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
สาวคนไหนที่อยากได้ลุคสุภาพดูดีแบบมืออาชีพ แต่แฝงความทันสมัยไม่จำเจ สี Mocha Brown เฉดนี้ตอบโจทย์มาก เหมาะกับสาววัยทำงานทุกสาขาอาชีพเพราะดูสุภาพ เป็นทางการ และดูภูมิฐาน มีระดับ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งความเป็นแฟชั่นเลยค่ะ

5. Cherry Cola Red – ผมสีน้ำตาลเชอร์รี่โค้ก แดงนิด ๆ สุดชิค
สาวสายแฟตัวจริงต้องเคยได้ยินชื่อสี Cherry Cola กันมาบ้าง นี่คือเทรนด์ผมสีแดงเชอร์รี่ผสมสีน้ำตาลโทนเข้ม ที่ได้ลุคเปรี้ยวซ่าส์เหมือนน้ำอัดลมโคล่า สมชื่อเชอร์รี่โค้กเลยค่ะ สีนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่สาวตะวันตกช่วงปลายปีที่ผ่านมา และยังคงมาแรงต่อเนื่องในปี 2025 เพราะมันให้ความรู้สึกทั้งเป็นสาวแฟชั่นนิสต้าสุดแซ่บ และยังดูเป็นผู้ใหญ่เรียบหรูในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเบจสีน้ำตาลเข้มที่แซมด้วยประกายสีแดงเบอร์กันดี ทำให้สีผมดูไม่ฉูดฉาดเกินไป แต่มีมิติและโดดเด่นเมื่อโดนแสงไฟหรือแสงแดด
เหมาะมากกับสาววัยทำงานที่อยากเพิ่มสีสันให้ตัวเองแต่ยังต้องการภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถืออยู่ สี Cherry Cola จะยิ่งขับผิวสาวเอเชียโทนขาวเหลืองและสองสีได้ดี (ทำแล้วหน้าผ่องมีเลือดฝาด) ส่วนสาวผิวอมชมพูหรือผิวขาวซีดก็ทำได้นะคะ แต่สีนี้อาจจะยิ่งทำให้ดูหน้าชมพูระเรื่อขึ้นไปอีก ถือเป็นเสน่ห์อีกแบบ สรุปคือ Cherry Cola เป็นสีที่ทำแล้วดูสดใสมีพลัง เสริมความมั่นใจ และโดดเด่นแบบไม่ต้องแรงเกินพอดี

สำหรับสายแฟชั่นที่อยากได้ลุคไม่ซ้ำใครและชอบสีผมแฟนซีปี 2025 ขอแนะนำ ผมสีม่วงลาเวนเดอร์หม่น หรือจะเรียกว่า Electric Lavender ก็ได้ค่ะ สีนี้เป็นโทนม่วงอ่อนผสมสีเทาหม่นเล็กน้อย ให้ความรู้สึกชวนฝัน แบบสาวโลกเทพนิยาย แต่ยังคงความเท่โมเดิร์นเพราะมีความหม่นเทาช่วยเบรคไม่ให้ดูหวานเกินไป เทรนด์สีม่วงหม่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากทั้งฝั่งญี่ปุ่นที่นิยมสีพาสเทลในกลุ่มสาวแฟชั่น และฝั่งตะวันตกที่กระแส Ultra Violet และสีม่วงโทนสดเคยมาแรงเมื่อไม่กี่ปีก่อน
ผมสีลาเวนเดอร์หม่นจะเหมาะมากกับสาวที่มีผิวขาวอมชมพูหรือผิวโทนเย็น (Cool tone) เพราะจะยิ่งขับใบหน้าให้ดูไบรท์โดดเด่นแบบตุ๊กตา แต่สาวผิวสีอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกันโดยอาจเลือกเฉดม่วงที่เข้มขึ้นอีกนิดหรือทำไฮไลต์สีม่วงแซมกับสีพื้นเดิมก็จะได้ลุคที่ทั้งเก๋และแมทช์กับสีผิวเรามากขึ้นค่ะ บุคลิกที่เหมาะกับสีนี้คือสาวที่สนุกกับการแต่งตัว มีความครีเอทีฟ และพร้อมจะเป็นจุดเด่นในทุกที่ที่ไป รับรองว่าถ้าทำสีนี้แล้วคุณจะได้ลุคที่โดดเด่นสุด ๆ จนใครก็ต้องเหลียวมองแน่นอน

7. Milk Tea Beige – ละมุนแบบสาวเกาหลี
ปิดท้ายกันด้วยสีที่สาวเอเชียโดยเฉพาะสาวไทยเกาหลีญี่ปุ่นกำลังฮิตที่สุด นั่นคือโทน น้ำตาลเบจนมชา หรือที่หลายคนเรียกว่า “สีชานม” นั่นเองค่ะ สีนี้มาแรงแซงโค้งเพราะให้ลุคที่ทั้งดูแพงและดูอ่อนโยนละมุนในเวลาเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือช่วยให้หน้าดูสว่างใสแบบเป็นธรรมชาติมาก ๆ (ข้อดีของสีประกายเบจคือจะลดความหมองเหลืองของผิวหน้า ทำให้หน้าดูผ่องขึ้น) ไม่น่าแปลกใจเลยที่
สี Milk Tea Beige กลายเป็นสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่สาวเอเชียช่วงนี้เลย เพราะมันเข้าได้กับสีผิวเอเชียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะผิวขาวซีด ขาวเหลือง หรือสองสีก็ทำแล้วขับผิวสุด ๆ ที่
สำคัญคือเป็นสีน้ำตาลอ่อนที่ไม่ต้องกัดสีผมเยอะจนผมเสียเหมือนเวลาไปทำสีบลอนด์ แต่ก็ยังได้ลุคสว่างไบรท์ที่เปลี่ยนลุคเราไปชัดเจน สีนมชานี้เหมาะกับสาวที่อยากเปลี่ยนลุคให้ดูซอฟต์ละมุน ดูเป็นมิตร อ่อนโยน แถมยังดูมีระดับแบบสาวเกาหลีมีสไตล์ เป็นสีที่ทำแล้วแต่งตัวง่าย เข้ากับเสื้อผ้าโทนสุภาพหรือจะแต่งแฟชั่นจัดเต็มก็ดูดี เรียกว่าเป็น สีผมผู้หญิงวัยทำงาน ที่อยากได้ลุคใหม่แต่ไม่หวือหวาเกินไป ทำแล้วรับรองว่าปังแบบกำลังดีค่ะ

วิธีเลือกสีผมให้เหมาะกับใบหน้าและลุคสาววัยทำงาน
ได้รู้จักสีผมเทรนด์ฮิตปี 2025 กันไปแล้ว คราวนี้สาว ๆ วัยทำงานคงอยากรู้ว่าจะเลือกสีไหนดีให้เข้ากับตัวเองที่สุด!นอกจากการเลือกตามความชอบส่วนตัวแล้ว เรามีทริคเล็ก ๆ ในการเลือกสีผมให้เหมาะกับสีผิวและภาพลักษณ์ที่ต้องการมาฝากกันค่ะ
รู้จักโทนผิวของตัวเอง: ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าผิวเราเป็นโทนอุ่น (เหลือง/น้ำผึ้ง) หรือโทนเย็น (ชมพู/แดงเรื่อ) เพราะสีผิวมีผลมากต่อความเข้ากันกับสีผม คนผิวโทนอุ่นมักเหมาะกับสีผมเฉดอบอุ่น เช่น น้ำตาลคาราเมล น้ำตาลประกายทอง หรือทองประกายส้ม ขณะที่ผิวโทนเย็นจะขับกับสีผมโทนเย็นหม่น ๆ อย่างน้ำตาลประกายเทา แอชบราวน์ หรือบลอนด์เย็นมากกว่า นอกจากนี้สาวผิวสองสีหรือโทนกลางก็โชคดีหน่อยที่เล่นได้หลายสีตั้งแต่น้ำตาลเชสนัทไปจนถึงแดงเชอร์รี่เลยทีเดียว
ลุคที่อยากได้สำคัญมาก: ลองถามตัวเองว่าอยากให้ภาพลักษณ์ออกมาแนวไหน
- ถ้าอยากได้ ลุคโปรเฟสชันนัล ดูสุภาพน่าเชื่อถือสำหรับการทำงาน ควรเลือกสีโทนธรรมชาติที่ไม่จัดจ้านเกินไป เช่น น้ำตาลช็อกโกแลต น้ำตาลมอคค่า หรือดำมีไฮไลต์เล็กน้อย สีเหล่านี้จะช่วยให้คุณดูเป็นมืออาชีพและดูแลรักษาง่ายด้วย
- ถ้าอยากได้ ลุคหรูดูแพง แนะนำสีโทนอุ่นประกายทองหรือประกายหม่นที่ให้ความรู้สึก luxury เช่น น้ำตาลคาราเมล น้ำตาลประกายทอง หรือบลอนด์อมทองแบบ Champagne Blonde ก็เข้าแก๊ป สีเหล่านี้เมื่อโดนแสงจะมีมิติเล่นสี ดูผมสุขภาพดีมีราคา เสริมลุคให้ดูแพงขึ้นอย่างมีระดับ
- สำหรับสาวที่ชอบ ลุคหวานละมุน ดูเป็นมิตรนุ่มนวล สีโทนอ่อนหม่นช่วยได้มาก เช่น Ash Brown หรือน้ำตาลหม่นเทาที่ลดความหมองของหน้า, สีเบจนมชาที่ให้ลุคซอฟต์แบบสาวเกาหลี หรือสี Rose Gold ชมพูโรสโกลด์ที่เพิ่มความหวานมีเสน่ห์แต่ยังดูสุภาพ สีเหล่านี้จะเสริมให้ใบหน้าดูอ่อนโยนและอ่อนวัยขึ้นค่ะ
- สุดท้ายถ้าใจอยากได้ ลุคเปรี้ยวมั่น ทันสมัย อย่ากลัวที่จะลองสีแฟชั่นสดใส แต่ทั้งนี้สำหรับวัยทำงานเราอาจเลือกทำสีแฟชั่นในรูปแบบที่ยังสุภาพอยู่ เช่น ทำไฮไลต์สี Blue Black น้ำเงินประกายในผมสีดำ, สี Burgundy Red แดงเบอร์กันดีที่เห็นชัดในแสง, หรือสีพาสเทลหม่น ๆ อย่างม่วงลาเวนเดอร์หรือชมพูพีชอ่อนแบบ Pink Brown การทำสีแฟชั่นเฉดเหล่านี้จะทำให้คุณโดดเด่นและแสดงความเป็นตัวเอง แต่ก็ยังกลมกลืนกับลุคการทำงานได้อยู่
ปรึกษาช่างผมมืออาชีพ: เมื่อได้ไอเดียคร่าว ๆ แล้ว แนะนำให้เข้าปรึกษาช่างทำผมที่มีประสบการณ์ เพราะช่างจะช่วยประเมินได้ว่าสีผมที่เราอยากทำเหมาะกับสีผิวและสภาพผมเราหรือไม่ รวมถึงแนะนำการฟอกสีหรือการผสมสีที่เหมาะสมเพื่อให้ได้เฉดที่ใกล้เคียงกับที่เราต้องการมากที่สุด
นอกจากนี้อย่าลืมถามเรื่องการดูแลรักษาหลังทำสีและความถี่ในการต้องไปเติมโคนหรือทรีทเม้นท์บำรุงผมด้วย เพราะสีบางสีอาจต้องดูแลมากเป็นพิเศษ สาว ๆ จะได้เตรียมตัวและตัดสินใจถูกค่ะ
พร้อมเปลี่ยนลุคใหม่ด้วยสีผมสุดปังแล้วหรือยัง?
เทรนด์สีผมปี 2025 มีแต่สีสวย ๆ น่าทำทั้งนั้น ไม่ว่าจะสายแฟชั่นขั้นสุดหรือสายลุคธรรมชาติ ก็มีตัวเลือกให้ปรับลุคกันได้ตามสไตล์ที่ชอบเลย สาว ๆ วัยทำงานที่มีกำลังซื้อและอยากลงทุนกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง บอกเลยว่าการทำสีผมใหม่นี่แหละเป็นวิธีที่ทั้ง สนุก และ คุ้มค่า มาก เพราะผลลัพธ์ที่ได้คือความรู้สึกมั่นใจและลุคที่ดูดีมีระดับขึ้นทันตา ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่คุณจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนลุคตัวเองให้ทันกระแส สีผมมาแรง 2025 ถ้าสีไหนโดนใจจากลิสต์ที่เราแนะนำ ก็อย่ารอช้า! สามารถเซฟรูปเก็บไว้แล้วนัดหมายช่างผมมือโปรที่ซาลอนใกล้บ้าน หรือจองคิวร้านทำผมร้านโปรดของคุณได้เลย ยิ่งจองไวก็ยิ่งได้ลุคใหม่ไว จะได้ไม่ตกเทรนด์ คราวนี้ไม่ว่าจะเดินเข้าออฟฟิศ ไปประชุมลูกค้า หรือไปแฮงเอาท์เก๋ ๆ หลังเลิกงาน คุณก็จะพร้อมเฉิดฉายในลุคใหม่ที่ทั้งอินเทรนด์และเสริมความมั่นใจจนใคร ๆ ต้องทักค่ะ 😉
อยากทำสีผมใหม่ให้ปังตามเทรนด์ 2025 ทำที่ไหนดี?
ถ้าอ่านบทความนี้แล้วเจอสีผมที่ใช่ อย่ารอช้า! ลองมาเปลี่ยนลุคกับเรา Take Care Salon of Beauty ที่พร้อมให้บริการทำสีผมโดย ช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมแนะนำเฉดสีที่เข้ากับสีผิวและบุคลิกของคุณที่สุด เราใช้ ผลิตภัณฑ์ทำสีระดับพรีเมียม เพื่อให้ได้สีสวยติดทน เส้นผมยังคงเงางามสุขภาพดี ✨
- 🧴 ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ
- 👩🎨 ให้คำปรึกษาก่อนทำสีโดย Hair Colorist มืออาชีพ
With 3 Branches in Bangkok
📍Sukhumvit19 Tel. 02-2558862
📍Sukhumvit35 Lady Tel. 02-2587543
📍Emquartier 2nd Fl. Tel. 02-4751500
📲 จองคิวล่วงหน้าได้ที่ Line OA: @takecare_beauty
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ได้ทุกช่องทาง