ส้นเท้าแตก! วิธีรักษาแบบเห็นผลเร็ว พร้อมเคล็ดลับดูแลเท้าให้เนียนนุ่ม
เลือกหัวข้อที่ต้องการ
ส้นเท้าแตกเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นสูงแต่กลับทำให้เท้าแห้งแตกได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ การมีผิวส้นเท้าที่แห้งแตกไม่เพียงทำให้สูญเสียความมั่นใจเวลาใส่รองเท้าเปิดส้น แต่ยังอาจนำไปสู่อาการเจ็บและเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย การดูแลสุขภาพเท้าจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม.
บทความนี้เราจะพาไปหาคำตอบทุกเรื่องเกี่ยวกับปัญหาเท้าแตก ไม่ว่าจะเป็นส้นเท้าแตกเกิดจากอะไร, “เท้าแตก รักษา ยัง ไง”, รวมถึงวิธีฟื้นฟูส้นเท้าที่แห้งแตกให้กลับมาเนียนนุ่มอย่างเร่งด่วน!
นอกจากนี้ เรายังมีผลิตภัณฑ์ดี ๆ จากเยอรมนีมาแนะนำ นั่นคือLCN Mykosept Foot Foam โฟมบำรุงเท้านำเข้าที่จะมาเป็นตัวช่วยกู้ผิวเท้าของคุณให้เนียนนุ่มแม้ในช่วงหน้าฝน
ปัญหาส้นเท้าแตกคืออะไร? เกิดจากอะไร?
ส้นเท้าแตก คือภาวะที่ผิวหนังบริเวณส้นเท้า หนา แห้ง และเกิดรอยแยกหรือรอยแตกขึ้นมา ผิวที่แตกลอกอาจมีสีเหลืองหรือขาวขุ่นและรู้สึกสากเมื่อสัมผัส สาเหตุหลักมักมาจากการที่ผิวหนัง ขาดความชุ่มชื้น จนแห้งกร้าน เมื่อผิวไม่ยืดหยุ่นและต้องรับแรงกดจากการเดินหรือยืนเป็นเวลานาน ก็อาจเกิดการแตกเป็นร่องได้ ในบางกรณีอาจมีเลือดออกหรือเจ็บปวดหากรอยแตกนั้นลึกมาก
ส้นเท้าแตกเกิดจากอะไร? ปัจจัยที่ทำให้เกิดส้นเท้าแตกมีหลายอย่าง ได้แก่:
- ผิวแห้งขาดน้ำ:การดื่มน้ำน้อยหรืออยู่ในที่อากาศแห้งมาก ๆ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ผิวเท้าที่แห้งจะเปราะและแตกง่าย
- การเสียดสีและแรงกด: การยืนหรือเดินเป็นเวลานาน โดยเฉพาะคนที่น้ำหนักตัวมาก หรือใส่รองเท้าที่เปิดส้น/พื้นแข็ง ไม่มีการรองรับส้นเท้า จะเพิ่มแรงกดและการเสียดสีกับส้นเท้า ทำให้ผิวด้านแข็งและแตกได้
- การไม่บำรุงผิวเท้า:หลายคนละเลยการทาครีมบำรุงเท้า เมื่อผิวบริเวณส้นเท้าไม่มีความชุ่มชื้นก็จะแห้งแตกง่ายขึ้น
- ปัจจัยด้านสุขภาพ: อายุที่มากขึ้นทำให้ผิวผลิตน้ำมันตามธรรมชาติน้อยลง ผิวแห้งง่ายขึ้น รวมถึงผู้ที่มีโรคบางอย่างเช่น เบาหวาน หรือโรคผิวหนังบางชนิดก็มีโอกาสส้นเท้าแตกสูง นอกจากนี้การติดเชื้อราที่เท้า (ฮ่องกงฟุต) ก็อาจทำให้ผิวลอกเป็นขุยและแตกร่วมด้วย
ทำไมการดูแลส้นเท้าจึงสำคัญ?
เท้าเป็นอวัยวะที่ต้องรองรับน้ำหนักตัวเราตลอดวัน และพาเราเดินไปทุกที่ แต่กลับเป็นส่วนที่หลายคนมักละเลยการดูแล การมีสุขภาพเท้าที่ดี ไม่เพียงช่วยให้เราเดินเหินได้อย่างมั่นใจไร้ความเจ็บปวด แต่ยังป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมา:
- ป้องกันการติดเชื้อ: รอยแตกบนส้นเท้าเป็นช่องเปิดให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในหน้าฝนที่เราต้องเดินลุยน้ำหรือพื้นเปียก สิ่งสกปรกและเชื้อโรคในน้ำอาจเข้าสู่รอยแตกทำให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้
- ลดกลิ่นเท้าและเชื้อรา: เท้าที่มีผิวแข็งแตกมักเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกและเหงื่อ เมื่อไม่ได้รับการทำความสะอาดและบำรุงที่ดี จะเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และเชื้อราเติบโตได้ง่าย การดูแลเท้าให้สะอาดและชุ่มชื้นอยู่เสมอจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้
- เพิ่มความมั่นใจและบุคลิกภาพ: เท้าที่เนียนนุ่มสะอาดสะท้อนถึงสุขอนามัยและการดูแลตัวเองของเรา ลองคิดดูว่าคุณจะรู้สึกดีแค่ไหนหากสามารถโชว์เท้าในรองเท้าแตะหรือรองเท้าเปิดส้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องส้นเท้าแตก
ปัญหาส้นเท้าแตกในหน้าฝน
แม้ว่าในช่วงหน้าฝนบรรยากาศจะชื้น แต่น่าแปลกที่ปัญหาส้นเท้าแตกก็ยังพบได้บ่อย อันที่จริงช่วงหน้าฝนเรายิ่งต้องดูแลเท้าเป็นพิเศษ เพราะ:
- เท้าเปียกชื้นบ่อย: การเดินลุยฝนหรือน้ำขังทำให้เท้าเปียกเป็นเวลานาน ผิวหนังที่โดนน้ำมาก ๆ จะสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ พอแห้งก็จะแห้งยิ่งกว่าเดิม ผลคือผิวส้นเท้าแห้งลอกและแตกง่ายขึ้น
- เชื้อราระบาดง่าย: ความอับชื้นจากรองเท้าและถุงเท้าที่เปียกฝนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา ฮ่องกงฟุต หรือเชื้อราที่เท้าอาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งทำให้ผิวเท้าลอกเป็นขุยและแตกร้าวได้ หากเกาอาจเกิดแผลแตกซ้ำเติม
- การใส่รองเท้าปิด:หน้าฝนหลายคนเลือกใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหุ้มส้นเพื่อป้องกันเปียก แต่การใส่รองเท้าปิดตลอดวันทำให้เหงื่อออกและเกิดการเสียดสีสูง หากไม่บำรุงผิวเท้าให้ชุ่มชื้น ส้นเท้าที่แห้งอยู่แล้วจะยิ่งแตกหนักเมื่อถูกเสียดสีบ่อย ๆ
ส้นเท้าแตกหน้าฝน จึงกลายเป็นปัญหากวนใจที่มาในช่วงที่อากาศชื้น การดูแลให้เท้าสะอาดและแห้งอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญ หมั่นเช็ดเท้าให้แห้งหลังเปียกน้ำ และทาครีมทาเท้าแตกหรือผลิตภัณฑ์บำรุงทุกคืนก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ส้นเท้าแตกแย่ลงได้
วิธีดูแลและฟื้นฟูส้นเท้าแตกแบบเร่งด่วน
เมื่อส้นเท้าแตก สิ่งสำคัญคือการเติมความชุ่มชื้นและดูแลความสะอาดของเท้าอย่างเร่งด่วน หลายคนอาจสงสัยว่า “ส้นเท้าแตกวิธีแก้” หรือ “เท้าแตก รักษา ยัง ไง”ให้หายเร็ว ๆ เราขอแนะนำวิธี “แก้ ส้น เท้า แตก เร่ง ด่วน” ที่คุณสามารถทำได้เองดังนี้:
- แช่เท้าในน้ำอุ่น: เริ่มจากการผสมน้ำอุ่นใส่กะละมังและแช่เท้าประมาณ 10-15 นาที การแช่เท้าจะช่วยให้ผิวที่แห้งด้านอ่อนนุ่มลง ระวังอย่าใช้น้ำที่ร้อนเกินไปเพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง
- ขัดผิวส้นเท้าอย่างอ่อนโยน: หลังแช่เท้า ใช้หินขัดเท้าหรือที่ขัดส้นเท้า ค่อย ๆ ถูบริเวณส้นเท้าที่ด้านและแตกออก (หลีกเลี่ยงการขัดแรงเกินไปจนผิวแดงหรือถลอก) ขั้นตอนนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและลดความหนาของผิวด้าน
- เช็ดเท้าให้แห้งและทายา/ครีมบำรุง: ซับเท้าให้แห้งสนิท โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า จากนั้นทาครีมหรือโฟมบำรุงสำหรับผิวเท้าแตก เน้นนวดบริเวณส้นเท้าเป็นพิเศษ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น ยูเรีย (Urea) หรือสารสกัดน้ำผึ้ง เพื่อฟื้นฟูผิวเท้าแห้งแตกอย่างล้ำลึก
- สวมถุงเท้าฝ้าย: หลังทาครีมหรือโฟมบำรุง ควรสวมถุงเท้าฝ้ายบาง ๆ เพื่อเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ที่ผิวเท้าและป้องกันไม่ให้ครีมเลอะเปรอะที่นอน การใส่ถุงเท้านอนยังช่วยให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ตื่นมาส้นเท้าจะนุ่มขึ้นอย่างรู้สึกได้
- รักษาความสะอาดและบำรุงต่อเนื่อง: นอกจากการฟื้นฟูแบบเร่งด่วน อย่าลืมรักษาความสะอาดของเท้าในชีวิตประจำวัน หมั่นล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังลุยน้ำหรือฝน และทาครีมบำรุงเท้าทุกคืนจนกว่าส้นเท้าจะหายแตก วิธีแก้ส้นเท้าแตก ที่ได้ผลดีที่สุดคือการป้องกันและบำรุงอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
จุดเด่นของ LCN Mykosept Foot Foam
LCN Mykosept Foot Foamเป็นโฟมบำรุงเท้าสูตรพิเศษจากประเทศเยอรมนีที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาผิวเท้าแห้งแตกโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์นี้มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายอย่างที่ทำให้แตกต่างจากครีมทาเท้าทั่วไป ดังนี้:
- เนื้อโฟมบางเบา ซึมซาบเร็ว: โฟมสูตรนี้มีเนื้อสัมผัสที่บางเบาราวกับอากาศ เมื่อฉีดออกมาแล้วนวดลงบนผิว โฟมทาเท้าไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบมันบนผิว ต่างจากครีมข้น ๆ ที่บางครั้งทาแล้วรู้สึกลื่นหรือเหนอะหนะ เวลาใช้ LCN Foot Foam คุณจะสัมผัสได้ว่าผิวเท้านุ่มชุ่มชื้นแต่ไม่ลื่น สามารถใส่รองเท้าเดินต่อได้ทันทีโดยไม่รู้สึกเหนอะเท้า
- ปกป้องผิวเหมือนสวมถุงเท้ามองไม่เห็น: ด้วยสูตรพิเศษจากทาง LCN โฟมนี้เมื่อซึมลงสู่ผิวแล้วจะสร้างชั้นเคลือบบาง ๆ ปกป้องผิวเท้าคุณเสมือนใส่ถุงเท้าใสที่มองไม่เห็น ฟังดูน่าทึ่งใช่ไหมคะ? ชั้นปกป้องนี้ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและป้องกันผิวจากการเสียดสีหรือสิ่งสกปรกภายนอกได้ตลอดวัน
- หอมกลิ่นน้ำผึ้ง: หลายคนอาจไม่ชอบกลิ่นยาหรือกลิ่นฉุนของผลิตภัณฑ์ดูแลเท้า แต่ LCN Mykosept Foot Foam มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำผึ้ง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายขณะใช้ กลิ่นไม่แรงจนเกินไปและไม่ทิ้งกลิ่นอับที่เท้าแน่นอน
- เหมาะกับอากาศชื้นและหน้าฝน: โฟมบำรุงเท้านี้ถูกคิดค้นมาให้เหมาะกับสภาพอากาศที่ชื้น โดยซึมซับเร็วและไม่เหนอะหนะ จึงไม่ทำให้รู้สึกอับชื้นแม้ในวันที่อากาศร้อนชื้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดแบคทีเรียและกลิ่นเท้า ทำให้เท้ารู้สึกแห้งสบายตลอดวัน เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องใส่รองเท้าผ้าใบหรือยืนเดินนาน ๆ ในหน้าฝน
จากคุณสมบัติข้างต้นจะเห็นว่า LCN Mykosept Foot Foam เป็นตัวช่วยที่ครบครันสำหรับคนที่มีปัญหาส้นเท้าแตกหรือผิวเท้าแห้งกร้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความชุ่มชื้น การปกป้องผิว หรือความสะดวกในการใช้
ส่วนผสมสำคัญและประโยชน์
จุดเด่นอีกอย่างของ LCN Mykosept Foot Foamคือ ส่วนผสมสำคัญ ที่คัดสรรมาเพื่อการฟื้นฟูผิวเท้าแห้งแตกโดยเฉพาะ แต่ละส่วนผสมมีประโยชน์โดดเด่นดังนี้:
- Urea 5% (ยูเรีย):ยูเรียเป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่พบในผิวหนังเรา LCN Foot Foam มียูเรียความเข้มข้น 5% ซึ่งช่วยดึงและกักเก็บน้ำในชั้นผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน ยูเรียยังช่วยให้เซลล์ผิวที่แห้งด้านอ่อนนุ่มลงและหลุดลอกง่ายขึ้น ผิวใหม่ที่ขึ้นมาจะเนียนนุ่มและแข็งแรงขึ้น
- Milk Extract (สารสกัดน้ำนม):สารสกัดจากน้ำนมช่วยเพิ่มความเนียนนุ่มให้ผิว และปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิวหนัง สารอาหารในน้ำนมเช่นโปรตีนและวิตามินต่าง ๆ จะช่วยบำรุงผิวเท้าให้นุ่มลื่นน่าสัมผัส ลดความหยาบกร้านของส้นเท้าที่ด้านแตก
- Honey Extract (สารสกัดน้ำผึ้ง): น้ำผึ้งขึ้นชื่อว่าเป็นมอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ สารสกัดน้ำผึ้งในโฟมนี้มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคและลดกลิ่นอับของเท้า นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีกรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยในการ ซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว ที่แตกให้กลับมาแข็งแรง สุขภาพดี
ส่วนผสมทั้งสามทำงานร่วมกันเพื่อคืนความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวเท้าที่แตกให้กลับมาเรียบเนียน การที่ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างน้ำผึ้งและน้ำนม ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ในความอ่อนโยน แม้แต่ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ (แต่หากใครแพ้ส่วนผสมอย่างน้ำผึ้ง นม หรือยูเรีย ก็ควรทดสอบกับผิวส่วนอื่นก่อนใช้นะคะ)

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจาก LCN Mykosept Foot Foam เรามีคำแนะนำวิธีใช้ทั้งสำหรับช่างทำเล็บมืออาชีพในร้านและสำหรับการดูแลด้วยตัวเองที่บ้านดังนี้:
- ในร้านทำเล็บ/ร้านสปา: ช่างทำเล็บสามารถใช้ LCN Mykosept Foot Foam เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากการทำสปาเท้าหรือทำเล็บเท้า เมื่อเสร็จสิ้นการขัดส้นเท้าและนวดบำรุงแล้ว ให้เขย่ากระป๋องโฟม จากนั้นฉีดโฟมบำรุงเท้านี้ลงบนฝ่ามือหรือบนเท้าของลูกค้าในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วลูบไล้เบา ๆ ให้ทั่วเท้าโดยเฉพาะบริเวณส้นเท้า โฟมจะซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องล้างออก เท้าของลูกค้าก็จะเนียนนุ่มพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นการปิดท้ายการบริการที่สร้างความประทับใจ
- ที่บ้าน: LCN Mykosept Foot Foam เหมาะสำหรับการใช้ดูแลเท้าประจำวันได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง หลังอาบน้ำหรือก่อนนอน ให้เขย่ากระป๋องแล้วฉีดโฟมลงบนฝ่ามือ (ถือกระป๋องให้ตรงขณะฉีด) จากนั้นทาโฟมลงบนเท้าบริเวณที่ผิวแห้งหรือส้นเท้าที่แตก แนะนำให้ใช้วันละ 2 ครั้ง คือเช้าและก่อนนอน หรือใช้บ่อยตามต้องการในบริเวณที่ผิวแห้งกร้าน โฟมจะซึมเข้าผิวภายในไม่กี่นาทีและไม่ทิ้งความเหนอะหนะ สามารถใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าต่อได้ทันที
เคล็ดลับเพิ่มเติม: ควรใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องทุกวันเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการฟื้นฟูผิวส้นเท้าแตก และอย่าลืมเก็บกระป๋องโฟมในอุณหภูมิห้องปกติ ห่างจากแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง เพื่อรักษาคุณภาพของส่วนผสมภายใน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ LCN Mykosept Foot Foam
Q: หนึ่งขวดใช้ได้นานแค่ไหน?
A: LCN Mykosept Foot Foam หนึ่งกระป๋องมีขนาด 125 มล. หากใช้วันละสองครั้งจะใช้ได้นานประมาณ 1-2 เดือน นอกจากนี้ตัวกระป๋องเป็นแบบสเปรย์โฟม ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ถูกจ่ายออกมาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มีการหกหรือใช้เกินความจำเป็น
Q: คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ไหม?
A: ได้ค่ะ ส่วนผสมหลักอย่างยูเรีย น้ำนม และน้ำผึ้งมีความอ่อนโยนต่อผิว และไม่มีพาราเบนหรือซิลิโคน สำหรับผู้แพ้ง่ายมากแนะนำให้ทดลองทาที่ข้อพับแขนก่อนใช้งานจริง
Q: LCN Mykosept Foot Foam ช่วยเรื่องกลิ่นเท้าและเชื้อราที่เท้าได้ไหม?
A: ช่วยได้ในระดับหนึ่งค่ะ เพราะมีสารสกัดน้ำผึ้งต้านแบคทีเรีย ช่วยลดกลิ่นเท้าได้ดี ส่วนเรื่องเชื้อรานั้น โฟมนี้ไม่ได้เป็นยารักษาโดยตรง แต่การที่มันช่วยให้ผิวเท้าชุ่มชื้นและแข็งแรงก็ช่วยลดโอกาสเกิดเชื้อราซ้ำได้
ลองเลย! ให้ LCN Mykosept Foot Foam ดูแลเท้าคุณ
อย่าปล่อยให้ปัญหาส้นเท้าแตกมาทำให้คุณต้องเสียความมั่นใจ การดูแลเท้าเป็นเรื่องที่เราเริ่มได้ทันทีตั้งแต่วันนี้ แค่มีตัวช่วยดี ๆ อย่าง LCN Mykosept Foot Foam คุณก็สามารถบอกลาส้นเท้าที่แห้งแตกและกลับมามีเท้าที่เนียนนุ่มชวนสัมผัสอีกครั้ง ไม่ว่าจะหน้าฝนหรือหน้าไหน ๆ เท้าของคุณก็พร้อมลุยทุกสถานการณ์
ผลิตภัณฑ์ LCN Mykosept Foot Foam ขนาด 125 มล. ราคา 1,490 บาท หากคุณสนใจสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ โดย สั่งซื้อออนไลน์ ผ่านช่องทางทางการของ LCN ในประเทศไทย ได้แก่ Line Official: @takecare_beauty หรือผ่านทาง Shopee (ร้าน Take Care Beauty) เพื่อให้มั่นใจว่าได้สินค้าของแท้จากผู้นำเข้าโดยตรง ผลิตภัณฑ์นี้มี LCN Mykosept รีวิว จากผู้ใช้จริงมากมายที่ยืนยันว่าใช้แล้วเห็นผลจริง ส้นเท้านุ่มขึ้นจนรู้สึกได้. แล้วมาดูแลเท้าของคุณให้มีสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ